ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศ เพราะนับตั้งแต่มีกรณีจับกุมกลุ่มคนลักลอบเข้าประเทศไทยจากประเทศเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติ จ.เชียงราย พบว่าคนกลุ่มนั้นติด CV-19
บวกกับกรณีการคัดกรองกลุ่มแรงงานต่างด้าวใน จ.สมุทรสาครเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 516 ราย ทำให้แรงงานต่างด้าวตกเป็นเป้าที่สังคมเฝ้าระวังในตอนนี้
10 อับดับจังหวัดที่มีจำนวนแรงงานต่างด้าวสูงสุด (อ้างอิงจากจำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในประเทศไทยรวมทุกมาตรา ข้อมูล ณ เดือน พ.ย. 2563 ของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน) ดังนี้
1. กทม. 589,419 คน
2. สมุทรสาคร 239,752 คน
3. สมุทรปราการ 161,745 คน
4. ชลบุรี 158,578 คน
5. ปทุมธานี 134,389 คน
6. นนทบุรี 99,804 คน
7. นครปฐม 93,532 คน
8. เชียงใหม่ 89,357 คน
9. สุราษฎร์ธานี 77,528 คน
10. ภูเก็ต 72,966 คน
(หมายเหตุ: มีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในประเทศไทยกระจายทั่วประเทศ รวม 2,526,275 คน)
ทั้งนี้ วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มีการปล่อยแถวชุดเคลื่อนที่เร็ว 310 นาย ทำหน้าที่กวาดล้างการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยร่วมกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งเริ่มออกตรวจแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองช่วงก่อนช่วงเทศกาลวันคริสตมาสและวันขึ้นปีใหม่
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มอบหมายให้ สตม. กวาดล้างบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการนำโควิด-19 เข้ามาแพร่กระจายในประเทศ ทั้งยังกำชับผู้ประกอบการไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมาย โดยต้องรับแรงงานที่กระทรวงแรงงานจัดหามาให้ เพราะแรงงานเหล่านั้นจะผ่านกระบวนการกักตัวตามมาตรการของรัฐแล้ว
“หากเราพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐหากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตนำเข้าแรงงานมาอย่างผิดกฎหมายจะถูกดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด และถ้าหากจับกุมแรงงานผิดกฎหมายได้ ตม.สามารถผลักดันออกนอกประเทศทันทีผ่านด่านแม่สอด และด่านแม่สาย และหากเป็นหน่วยงานอื่นพบบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตชด. จะรับผิดชอบดูแลบุคคลเหล่านี้ โดยไม่นำมารวมกับผู้ต้องขังที่ ตม. จับกุมไว้กว่า 2,000 ราย”